สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมมือกับ คณะกรรมาธิการยุโรปด้านสาธารณสุขและคุ้มครองผู้บริโภค จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง รับมือกับวิกฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยด้านอาหาร ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานตรวจสอบรับรองและควบคุมความปลอดภัยด้านอาหาร ของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า รวมทั้งไทย โดยมุ่งเพิ่มพูนทักษะให้สมาชิกอาเซียนสามารถจัดการด้านความปลอดภัยอาหารใน ภาวะวิกฤติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์เพื่อจะได้ปรับตัวและแก้ไข ปัญหาได้ทันท่วงที อนาคตคาดว่าจะช่วยปกป้องผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียนและเพิ่มขีดความสามารถการ แข่งขันให้กับสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศสมาชิกอาเซียนในตลาดโลก ได้..............ข้อมูลจาก กรมวิชาการเกษตร ระบุว่า การขึ้นทะเบียนใบสำคัญวัตถุอันตรายตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2551 กรมวิชาการเกษตรไม่ได้ขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2551 ออกไปอีก 2 ปี ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าผู้ประกอบการยังคงต้องถือปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ฉบับปัจจุบัน คือ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไปถ้าวัตถุอันตรายชนิดใดยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ผู้ประกอบการจะไม่สามารถนำเข้าและผลิตเพื่อจำหน่ายได้................ผู้ ประกอบการไม่สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนได้ทันตามระยะเวลาดังกล่าว หากมีการนำเข้าวัตถุอันตรายมาแล้วหรือมีอยู่ในสต๊อก ถ้าผลิตตามทะเบียนใบอนุญาตเดิมแล้วเสร็จก่อนวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ก็สามารถที่จะจำหน่ายวัตถุอันตรายดังกล่าวต่อไปได้อีกจนกว่าวัตถุอันตรายจะ หมดอายุหรือหมดสต๊อก ซึ่งปกติวัตถุอันตรายจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปีเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการต้องมายื่นเรื่องขอมีไว้ในครอบครองต่อกรมวิชาการเกษตรก่อน วันที่ 22 สิงหาคมนี้ จึงจะสามารถนำสินค้าดังกล่าวออกมาจำหน่ายได้........... ปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายกับกรมวิชาการเกษตร แล้ว 166 บริษัท ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ทันวันที่ 22 สิงหาคม ยังคงสามารถดำเนินการยื่นเอกสารหลักฐานการขอขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ได้ต่อไป แม้จะเลยระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนหรือต่อทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตร ให้ผู้ประกอบการในส่วนที่เหลือแล้วเสร็จภายในปี 2554 นี้.
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น